กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ปล่อยเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 (โลมา) ลงน้ำ เสริมทัพภารกิจอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
วันนี้ (13 ก.พ.67) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานในพิธีปล่อยเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 (โลมา)ลงน้ำ ณ บริษัท ซีเครสท์ มารีน จำกัด ถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นางสมถวิล วงษ์สุวรรณ ภริยารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือ โดยมีการเชิญมิ่งขวัญและมงคลสู่เรือเจิมป้ายชื่อเรือ ปิดทอง ผูกผ้าสามสี คล้องพวงมาลัย โปรยข้าวตอกดอกไม้ และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ตามประเพณีโบราณ ทั้งนี้ ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งปล่อยเรือ “โลมา” ลงน้ำ
  กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ปล่อยเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 (โลมา) ลงน้ำ เสริมทัพภารกิจอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
  วันนี้ (13 ก.พ.67) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานในพิธีปล่อยเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 (โลมา)ลงน้ำ ณ บริษัท ซีเครสท์ มารีน จำกัด ถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นางสมถวิล วงษ์สุวรรณ ภริยารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือ  โดยมีการเชิญมิ่งขวัญและมงคลสู่เรือเจิมป้ายชื่อเรือ ปิดทอง ผูกผ้าสามสี คล้องพวงมาลัย โปรยข้าวตอกดอกไม้ และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ตามประเพณีโบราณ  ทั้งนี้ ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ  พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี 
  เรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 มีขนาดความยาว 80 ฟุต ภายในเรือมีเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับสนับสนุนภารกิจหลักของกรม ส่งเสริมสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สามารถปฏิบัติภารกิจในสภาพทะเล Sea State 2 มีอุปกรณ์สนับสนุนนักประดาน้ำ การฝึกดำน้ำ อุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับการดำน้ำ  ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลอีกด้วย รวมงบประมาณที่ใช้ในการจัดสร้างเรือดังกล่าวทั้งสิ้น 168,500,000 บาท 
 เรือดังกล่าวจะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย โดยอยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร) มีภารกิจด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ติดตามช่วยเหลือสัตว์ทะเล ตรวจสอบ และป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และเกาะต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนชุมชนชายฝั่ง ซึ่งเรือถือเป็นพาหนะหลักและมีความสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทางทะเล พร้อมด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะบูรณาการการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคีต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจนพี่น้องชุมชนชายฝั่ง เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และประชาชนในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง ร่วมด้วยช่วยกันในการสอดส่อง ปกป้อง คุ้มครองดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไป
เรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 มีขนาดความยาว 80 ฟุต ภายในเรือมีเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับสนับสนุนภารกิจหลักของกรม ส่งเสริมสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สามารถปฏิบัติภารกิจในสภาพทะเล Sea State 2 มีอุปกรณ์สนับสนุนนักประดาน้ำ การฝึกดำน้ำ อุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับการดำน้ำ ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลอีกด้วย รวมงบประมาณที่ใช้ในการจัดสร้างเรือดังกล่าวทั้งสิ้น 168,500,000 บาทกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งปล่อยเรือ “โลมา” ลงน้ำ
  กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ปล่อยเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 (โลมา) ลงน้ำ เสริมทัพภารกิจอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
  วันนี้ (13 ก.พ.67) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานในพิธีปล่อยเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 (โลมา)ลงน้ำ ณ บริษัท ซีเครสท์ มารีน จำกัด ถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นางสมถวิล วงษ์สุวรรณ ภริยารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือ  โดยมีการเชิญมิ่งขวัญและมงคลสู่เรือเจิมป้ายชื่อเรือ ปิดทอง ผูกผ้าสามสี คล้องพวงมาลัย โปรยข้าวตอกดอกไม้ และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ตามประเพณีโบราณ  ทั้งนี้ ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ  พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี 
  เรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 มีขนาดความยาว 80 ฟุต ภายในเรือมีเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับสนับสนุนภารกิจหลักของกรม ส่งเสริมสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สามารถปฏิบัติภารกิจในสภาพทะเล Sea State 2 มีอุปกรณ์สนับสนุนนักประดาน้ำ การฝึกดำน้ำ อุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับการดำน้ำ  ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลอีกด้วย รวมงบประมาณที่ใช้ในการจัดสร้างเรือดังกล่าวทั้งสิ้น 168,500,000 บาท 
 เรือดังกล่าวจะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย โดยอยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร) มีภารกิจด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ติดตามช่วยเหลือสัตว์ทะเล ตรวจสอบ และป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และเกาะต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนชุมชนชายฝั่ง ซึ่งเรือถือเป็นพาหนะหลักและมีความสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทางทะเล พร้อมด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะบูรณาการการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคีต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจนพี่น้องชุมชนชายฝั่ง เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และประชาชนในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง ร่วมด้วยช่วยกันในการสอดส่อง ปกป้อง คุ้มครองดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไป
เรือดังกล่าวจะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย โดยอยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร) มีภารกิจด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ติดตามช่วยเหลือสัตว์ทะเล ตรวจสอบ และป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และเกาะต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนชุมชนชายฝั่ง ซึ่งเรือถือเป็นพาหนะหลักและมีความสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทางทะเล พร้อมด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะบูรณาการการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคีต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจนพี่น้องชุมชนชายฝั่ง เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และประชาชนในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง ร่วมด้วยช่วยกันในการสอดส่อง ปกป้อง คุ้มครองดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไปกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งปล่อยเรือ “โลมา” ลงน้ำ
  กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ปล่อยเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 (โลมา) ลงน้ำ เสริมทัพภารกิจอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
  วันนี้ (13 ก.พ.67) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานในพิธีปล่อยเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 (โลมา)ลงน้ำ ณ บริษัท ซีเครสท์ มารีน จำกัด ถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นางสมถวิล วงษ์สุวรรณ ภริยารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือ  โดยมีการเชิญมิ่งขวัญและมงคลสู่เรือเจิมป้ายชื่อเรือ ปิดทอง ผูกผ้าสามสี คล้องพวงมาลัย โปรยข้าวตอกดอกไม้ และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ตามประเพณีโบราณ  ทั้งนี้ ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ  พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี 
  เรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 807 มีขนาดความยาว 80 ฟุต ภายในเรือมีเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับสนับสนุนภารกิจหลักของกรม ส่งเสริมสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สามารถปฏิบัติภารกิจในสภาพทะเล Sea State 2 มีอุปกรณ์สนับสนุนนักประดาน้ำ การฝึกดำน้ำ อุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับการดำน้ำ  ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลอีกด้วย รวมงบประมาณที่ใช้ในการจัดสร้างเรือดังกล่าวทั้งสิ้น 168,500,000 บาท 
 เรือดังกล่าวจะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย โดยอยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร) มีภารกิจด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ติดตามช่วยเหลือสัตว์ทะเล ตรวจสอบ และป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และเกาะต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนชุมชนชายฝั่ง ซึ่งเรือถือเป็นพาหนะหลักและมีความสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทางทะเล พร้อมด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะบูรณาการการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคีต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจนพี่น้องชุมชนชายฝั่ง เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และประชาชนในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง ร่วมด้วยช่วยกันในการสอดส่อง ปกป้อง คุ้มครองดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไป

error: Content is protected !!